บางท่านอาจมีความสับสนระหว่าง Lab-Grown Diamond และ เพชรเทียม และเพชรโมอิส ซึ่งหากมองภายนอกอาจจะมีรูปลักษณ์ที่คล้ายกัน แต่เมื่อพิจารณาอย่างผู้มีประสบกรณ์แล้ว จะพบถึงความแตกต่างทั้งความสวยงาม รูปลักษณ์ คุณสมบัติ และองค์ประกอบทางเคมี

​

Lab-Grown Diamond มีรูปลักษณ์ คุณสมบัติ และองค์ประกอบทางเคมีแบบเดียวกับเพชรที่ได้จากเหมืองแร่ เพียงแต่เกิดจากการจำลองการกำเนิดของเพชรด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ และสร้างสภาพแวดล้อมให้เหมือนแหล่งกำเนิดเพชร ณ เปลือกผิวโลก ทั้งอุณหภูมิ และแรงดัน ทำให้เพชรที่ได้ มีความทัดเทียมจากเพชรจากเหมือนแร่ เต็มไปด้วยประกายความสว่างที่เกิดจากการสะท้อนแสงสีขาวภายในเพชร มีการเล่นไฟที่จะทำให้แสงแพร่กระจายครบทั้งสเป็กทรั่ม และความระยิบระยับที่เกิดขึ้นเมื่อขยับเพชรไปมา สามารถกล่าวได้ว่า Lab-Grown Diamond ไม่สามารถจำแนกออกจากเพชรจากเหมืองแร่ได้ด้วยการมอง จำเป็นต้องได้รับการทดสอบด้วยเครื่องมือพิเศษเท่านั้น

​

ในขณะที่เพชรเทียม (เพชร CZ) เป็นอัญมณีที่ถูกสร้างขึ้นให้มีรูปลักษณ์คล้ายกับเพชร มีคุณลักษณะ และโครงสร้างทางเคมีที่ต่างกัน ซึ่งเพชรเทียมนี้ ถูกผลิตขึ้นโดยการหลอมละลายสารเคมีต่างๆ ที่มีคุณสมบัติที่ประกอบกันได้ออกมามีรูปลักษณ์คล้ายเพชร ทำให้เมื่อมองด้วยตาเปล่าอย่างผิวเผิน อาจดูคล้ายกัน แต่เมื่อพิจารณาด้วยผู้เชี่ยวชาญจะสามารถจำแนกออกด้วยตาเปล่าได้อย่างง่ายดาย ด้วยเหตุนี้เอง เพชรเทียมจึงมีราคาถูกกว่าเพชรมาก

​

เพชรโมอิส (Moissanite Diamond) เป็นอัญมณีที่เกิดขึ้นจากการสังเคราะห์แร่ซิลิคอนคาร์ไบต์ซึ่งมีรูปลักษณ์คล้ายคลึงกับเพชรเมื่อมองจากระยะไกล หรือมองในที่แสงสว่างไม่เพียงพอ อย่างไรก็ดีแสงสะท้อนของเพชรโมอิสมีความแตกต่างจากเพชรธรรมชาติ ซึ่งเพชรธรรมชาติ และ Lab-Grown Diamond จะมีการหักเหของแสงเป็นเส้นเดียว เมื่อแสงตกกระทบจากหน้าเพชรไปสู่ก้นเพชร แสงสะท้อนที่กลับมาสู่สายตาจะมีเพียงเส้นเดียว ในขณะที่การหักเหของแสงของเพชรโมอิสนั้นจะเป็นแสงเส้นคู่ ถึงแม้จะจำแนกด้วยตาเปล่าได้ยาก แต่องค์ประกอบทางเคมีก็แตกต่างจากเพชรธรรมชาติอย่างสิ้นเชิง ทำให้มีมูลค่าไม่สูงนัก

 

 นอกจากนี้ Lab-Grown Diamonds ยังเป็นเพชรที่เป็นสัญลักษณ์ของความรักแท้ที่บริสุทธิ์ ปราศจากการทำลายธรรมชาติและชีวิตของผู้คนเพื่อให้ได้มา